คาราเต้คิด เต็มเรื่อง เด็กชายวัย 12 ขวบ เดร ขว้างร์กเกอร์ (จาเดน สมิธ) บางทีก็อาจจะเป็นเด็กที่เลื่องลือที่สุดในบริเวณดีทรอยต์ แม้กระนั้นแนวทางการทำงานของแม่ของเขา (ทาราจี พี. เฮนสัน) ทำให้พวกเขาจำต้องเดินทางย้ายที่อยู่กันไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่ ในตอนแรก เดร ไม่ค่อยมีเพื่อนพ้อง กระทั่งเขาสามารถเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน เหม่ยอิง ได้ แม้กระนั้นหากแม้ทั้งสองจะมีความรู้สึกดีๆให้แก่กัน แม้กระนั้นไม่เหมือนกันทางวัฒนธรรมกลับสร้างรอยร้าวให้ แก่มิตรภาพ ซ้ำร้ายยิ่งไปกว่านั้น เดร ยังเปลี่ยนเป็นศัตรูของ เช็ง อันธพาลขาใหญ่ประจำห้อง เดร มีฝีมือคาราเต้เพียงนิดหน่อย แล้วก็ในดินแดนที่กังฟูนี้ เช็งสามารถจัดแจงคว่ำ คาราเต้ คิด ให้หมอบกระแตกับพื้นได้สบายๆความรู้สึกสันโดษในต่างเมือง
ทำให้เดรไม่บางทีอาจหาเพื่อนพ้องพรรณนาความทุกข์ได้เลย เว็บดูหนังไทยออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง มีแค่เพียงนักการภารโรงอย่าง คุณฮัน (เฉินหลง) ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วเป็นปรมาจารย์กังฟูพลางตัวมาคุณฮันเริ่มฝึกซ้อมกังฟูให้กับเดร พวกเขาเปลี่ยนเป็นเพื่อนซี้กัน และก็ด้วยกันฝึกซ้อมเพื่อการเผชิญหน้ากับเช็งสำหรับเพื่อการทดสอบกังฟู คุณฮัน สอนเดร ให้ทราบดีว่ากังฟูมิได้มีเพียงแค่การเตะต่อยเพียงแค่นั้น แต่ว่ายังคือเรื่องของความเป็นผู้ใหญ่และก็ความนิ่งสงบด้วย เดร ก็เลยใส่ใจได้ว่า การประจันหน้ากับเหล่าเด็กเกกมะเหรกคราวนี้จะเป็นการต่อสู้ที่สำคัญในชีวิตของเขา
ดูหนังออนไลน์ คาราเต้คิด เต็มเรื่อง
ยิ่งกว่านั้นยังมีนักแสดงสายแอคชั่นที่จะมาเพิ่มความเข้มข้นของการบู๊อย่าง “เฉินหลง” หรือ “แจ็คกี้ ระเบียง” เลยนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความต้องการมองเข้าไปอีก กระทั่งเมื่อภาพยนตร์ประเด็นนี้ได้ฉายไปในปี 2010 ก็เลยทำให้ภาพยนตร์ประเด็นนี้ได้รับกระแสตอบรับอย่างมากมาย รวมถึงกระแสเพลงประกอบภาพยนตร์อย่าง Never Say Never ที่ร้องโดย “จัสติน บีเบอร์” แล้วก็ผู้แสดงนำฝ่ายอย่าง “เจเดน สมิธ” ซึ่งเป็นเพลงที่ฮอตได้รับความนิยมติดหูหลายๆคนในตอนนั้นเลยก็ว่าได้เรื่องราวของ “เดอะ คาราเต้ คิด (The Karate Kid)” เริ่มจาก เดร ขว้างร์กเกอร์ เด็กผู้ชายวัยสิบสองขวบที่ป๊อปปูลาร์ครั้งสุดในเขตดีทรอยท์ แต่งานใหม่ของแม่เขา ทำให้พวกเขาจำต้องเดินทางไปที่เมืองจีน ในตอนแรก เดร ไม่ค่อยมีสหาย แต่ว่าเขาก็สร้างมิตรกับเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกัน เหม่ยอิงได้ รวมทั้งพวกเขาก็มีความรู้สึกด้วยกันแม้กระนั้นด้วยความต่างด้านวัฒนธรรมกลายเป็นตัวที่ทำให้มิตรภาพของพวกเขามีปัญหา
The Flash เดอะแฟลชถึงพวกเราจะทราบดีว่า..นี่เป็นผลิตผลที่ยังคงเหลือจากค่ายภาพยนตร์ดีซีสมัยที่แล้ว แล้วก็นี่บางทีอาจจะเป็นจังหวะด้านหลังๆที่พวกเราได้ประทับใจกับบรรยากาศรวมทั้งแคสติ้งชุดนี้ในฐานะ จัสติส ลีก แล้ว รวมทั้งนี่ก็คือการมาฉายผู้เดียวกับเขาบ้างของ “The Flash” วีรบุรุษผู้ว่องรวมทั้งจัดได้ว่าเป็นตัวลักขโมยซีนของจักรวาลนี้ที่ปูทางมาในตอนยาวนานหลายปี แล้วหนังผู้เดียวของเขาจะสร้างความตรึงใจได้มากแค่ไหนกันThe Flash เกี่ยวกับเรื่องราวของ กางร์รี ที่ใช้พลังเหนือธรรมชาติของเขาย้อนเวลากลับไปเพื่อเปลี่ยนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว แต่ว่าความพากเพียรสำหรับการช่วยเหลือครอบครัวของเขา ทำให้อนาคตเปลี่ยนไปโดยไม่คาดคิด กางร์รีติดอยู่ตามความจริงใหม่นายพลซอด กลับมาอีกรอบ เพื่อล้างบ้างทุกสิ่งทุกอย่างมีชีวิต และไม่มีซูเปอร์วีรบุรุษคนไหนกันแน่เลยที่จะก้าวเข้ามาสกัดได้
นอกเสียงจากว่ากางร์รีจะสามารถโน้มน้าวจิตใจให้กางทแมนที่ปลดเกษียณตนเองไปแล้วกลับมา คาราเต้คิด เต็มเรื่อง และก็ช่วยเหลือชาวคริปโตเนียนจากการเช็ดกคุมขังมาได้…โดยที่เขาไม่รู้จักว่านั่นไม่ใช่ผู้ที่เขากำลังตามหา ตอนท้ายแล้ว เพื่อป้องกันโลกที่เขาอยู่ รวมทั้งกลับไปยังอนาคตที่เขารู้จัก ความคาดหวังเดียวของกางร์รีก็คือการวิ่งให้สุดชีวิต แต่ว่าการเสียสละคราวสุดท้ายของเขามันจะพอเพียงเพื่อย้อนคืนทั้งยังจักรวาลไหม?สำหรับ The Flash น่าจะเป็นหนังของดีซีที่พวกเราชอบได้ยินข่าวอยู่เรื่อยทั้งยังข่าวสารในด้านอีสเตอร์เอ้กต่างๆกับข่าวสารด้านเสียๆหายๆชองผู้แสดงนำฝ่าย แม้กระนั้นหนังประเด็นนี้จัดได้ว่ายอดเยี่ยมในหนังที่มีการลงทุนค่อนข้างจะสูงคราวหนึ่งของสตูดิโอ เพราะเหตุว่าได้ยินว่ามีการเปลี่ยนแปลงปรับแก้และก็รื้อถอนถ่ายใหม่เพิ่มเติมอีกเข้าไปด้วย
ถึงจะกล่าวว่าใช้งบประมาณไปราว200 ล้านเหรียญ แต่ว่าบางที่มาของข่าวก็อ้างถึงว่าคงจะใช้มากยิ่งกว่านั้น บางครั้งก็อาจจะแตะต้องถึงหลัก 400 ล้านเหรียญ เลยก็ว่าได้“แอนเดรส มัสเชียติเตียน” มารับหน้าควบคุมหนังหัวข้อนี้ ซึ่งเป็นการดูแลหนังซูเปอร์วีรบุรุษและก็หนังฟอร์มใหญ่ยักษ์ทุนใหญ่โตเรื่องราวของเขาด้วย แต่ว่าก็แอบเสียดายเล็กน้อยที่งานดูแลหนังหัวข้อนี้ของเขากลับยังไม่ใช่ผลงานที่ได้ได้โอกาสโชว์ความสามารถได้อย่างสะดุดตา เห็นได้ชัดว่าเขาเพียงแค่มาเป็นรับหน้าที่ น้อยมากที่จะสัมผัสได้ถึงวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนกันกับระบบนักลงทุนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับหนังหัวข้อนี้เป็นส่วนมาก ทุกอย่างโดนจับใส่เข้ามาอย่างเป็นจังหวะๆตั้งอกตั้งใจจะก่อให้ผู้ชมเซอร์ไพรส์เหลือเกิน จนถึงมิได้รู้สึกเซอร์ไพรส์เท่าไรนัก
แม้กระนั้นขั้นต่ำๆก็ยังดีที่ได้บทหนังของมือเขียนบทลำดับหนึ่งของแวดวงเดี๋ยวนี้ อย่าง “คริสตำหนิทุ่งนา ฮอดสัน” มาช่วยประคองเอาไว้ ท่ามกลางทางที่ท้าแล้วก็วุ่นพอได้ ก็เป็นไปตามที่ลือๆกันว่าหนังจับรายละเอียดเล็กน้อยมาจากฉบับคอมิก Flashpoint มาเล่นด้วย โน่นก็เลยเป็นต้นเหตุที่ทำให้หนังยังมีกลิ่นความเป็นการ์ตูนปนเปอยู่หน่อย แม้กระนั้นมิติที่ทับซ้อนแล้วก็สลับซับซ้อนของหนังหัวข้อนี้ก็ทำเป็นเพียงแค่เกือบจะ แม้กระนั้นยังไม่ถึงระดับเพอร์เฟ็คใดๆก็ตามบางครั้งอาจจะจำต้องกล่าวว่าหากว่าคุณเป็นแฟนคลับนักแสดงวีรบุรุษหรือดีซี The Flash น่าจะเป็นหนังที่เพลิดเพลินใจได้ดิบได้ดีสำหรับคุณในระดับหนึ่งเลย แม้กระนั้นแม้ว่าคนใดที่มิได้มีพื้นฐานหรือพึ่งจะมานั่งทำความรู้จักในช่วงนี้ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีบางมุมที่รู้สึกเฉลียวใจและก็ยังไม่รู้เรื่องกับแนวความคิดด้านๆเกี่ยวกับการเดินทางผ่านเวลา รวมทั้งผ่านพหุจักรวาล ที่ยังไม่ค่อยได้รับการชี้แจงที่สะสางสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นโน่นก็ไม่ใช่จุดที่มาบ่อนทำลายความเพลิดเพลินของตนเองอะไรมากแค่ไหนนัก
The Roundup: No Way Out บู๊ระห่ำล่าล้างแดนนรก ตีแดนนรกแตก
ถ้าย้อนกลับไปในขณะเดียวกันนี้เมื่อปีที่ผ่านมา พวกเราก็ได้ลุ้นสนุกสาแก่ใจสุดๆกับ The Roundup แล้วพอเพียงผ่านผ่านพ้นมา 1 ปีเต็ม ตำรวจสายลับหมัดโหดเหี้ยมเขาก็กลับมาอีกที..เวลาเดิมอีกรอบกับหนังภาคใหม่ “The Roundup: No Way Out บู๊ระห่ำล่าล้างเมืองนรก ตีเมืองนรกแตก” ที่ขณะนี้มันได้แปลงเป็นอีกหนึ่งจักรวาลหนังแอคชั่นคละเคล้าฮาอันมีคุณค่าของแวดวงหนังประเทศเกาหลีไปแล้ว แล้วก็ดูอย่างกับว่าจะยังขยายและก็สืบต่อออกไปได้กว้างไม่ธรรมดา สำหรับใน The Roundup: No Way Out บู๊ระห่ำล่าล้างแดนนรก ตีแดนนรกแตก ภาคนี้ยังคงจุดโฟกัสที่สายคนรู้จักมักคุ้น มาซอกโด ได้มาร่วมกลุ่มกับหน่วยกระทำการสืบสาวใหม่ ที่มี จองแทซู รับหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม พวกเขาจำต้องประจันหน้ากับศัตรูใหม่ที่มีอำนาจ อย่าง จูซองชอล ลูกชายผู้สืบสกุลมหาเศรษฐีที่เลื่องลือไปทั่วเมือง และยังมีกรุ๊ปกลุ่มยากูซาเข้ามาเกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับคดีใหม่ที่เขาจะต้องสะสางอีกด้วย
แล้วก็แน่ๆว่าภาคนี้ ผู้กำกับคนเดิม “อีซางยง” ก็ยังคงกลับมารับหน้าที่อีกเหมือนเคย คาราเต้คิด เต็มเรื่อง รวมทั้งดูเหมือนกับว่าหนังก็ดำเนินงานสร้างออกจะเร็วไว โดยที่ไม่ต้องปรับจูนอะไรมากมาย เนื่องจากคณะทำงานและก็ผู้แสดงนำฝ่ายก็ยังคงเป็นที่รู้จักดีสำหรับในการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว และก็นี่ก็เลยแปลงเป็นอีกหนึ่งในความแข็งแรงมากมายๆของหนังชุดนี้ ที่มันได้เป็นจักรวาลหนังประเทศเกาหลีที่อยู่แถวหน้าของแวดวงในตอนนี้ไปเป็นระเบียบแล้ว และก็พวกเราเชื่ออย่างยิ่งว่า คงจะได้โอกาสได้มองเห็นภาค 4-5-6 ถัดไปอีกเรื่อยแม้กระทั่งบอกตามเกณฑ์แบบขวานผ่าซากนั้น The Roundup: No Way Out ก็เต็มด้วยแพ็คเกจสูตรสำเร็จแบบเดิมๆแทบไม่มีความแตกต่างจากภาคที่แล้วสักเท่าไหร่ จังหวะรวมทั้งท่าทางคล้ายคลึงกัน
เพียงพล็อตเรื่องแล้วก็ภารกิจที่เปลี่ยนไปเพียงแค่นั้น บทหนังก็เกือบจะไม่มีอะไรเลย เน้นย้ำความเด่นอยู่ที่สปายซอกโดด้วยพลังอันทรงเสน่ห์แล้วก็ล่ำสันของเขา เป็นนับว่าเป็นไฮไลต์แล้วก็จุดขายที่เด่นที่สุดของหนังชุดนี้อยู่แล้วในทางของความสดใหม่นั้น หนังบางครั้งก็อาจจะหาไม่ค่อยได้มาก กลับจะต้องชูความดีความชอบให้กับความเพลิดเพลิน ที่หนังมอบอรรถรสได้อย่างอัดแน่น บอกได้เลยว่าตลอดเวลาชั่วโมงกว่าๆของหนังประเด็นนี้ เกือบจะไม่มีซีนไหนที่น่าระอาเลย เนื่องจากว่าหนังถูกร้อยเรียงมาด้วยความเบิกบานใจที่ตอบปัญหาคนดูและแฟนหนังอย่างดีเยี่ยม พวกเขาทราบดีว่าผู้ชมอยากได้อะไร ต้องการมองเห็นซีนแอคชั่นแบบไหน และก็มันก็ยังมันสม่ำเสมออย่างเช่นเดิม
มาดงซอก ก็ยังคงขับเสน่ห์รวมทั้งสร้างค้างแรกเตอร์นี้ออกมาในลักษณะของเขา อาชา สล็อต ที่เวลานี้มันเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของภาพลักษณ์ของเขาไปเสียแล้ว หากว่าหน้าที่การแสดงของเขาจะบ่อยๆเดิมๆแม้กระนั้นมันยังคงเป็นตัวละครที่ยังขายได้แล้วก็ผู้ชมก็ยังซื้อ ต้องการจะมองเห็นเขาในลีลาท่าทางการแสดงและก็หน้าที่ขำขันหน้าเฉยอะไรอย่างงี้ รวมทั้งยังบู๊ดีเดือดได้จัดจ้า ซึ่งในภาคนี้เขาก็รับหน้าที่เพิ่มหลายๆอย่าง หนึ่งในนั้นก็เป็นผู้ผลิตร่วมผู้แสดงสมทบที่เข้ามาเสริมกองทัพให้ภาคใหม่นี้ ได้ผู้แสดงนำชายชายหนุ่ม “อีจุนฮยอก” ที่พวกเราชอบมองเห็นเขาเล่นบทคนดีอยู่ในซีรีส์ประเทศเกาหลีอยู่เรื่อยแม้กระนั้นมากลับติดอยู่แรกเตอร์แบบเลวทรามเต็มขั้นในหัวข้อนี้ ก็นับว่าเป็นความท้าของเขาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าการเป็นคนชั่วในฉบับที่เขาแปลความออกมานั้น
บางครั้งอาจจะมองแข็งทื่อและไม่เป็นธรรมชาติไปหน่อย แต่ว่าอย่างต่ำๆเขาก็พากเพียรสื่อออกมาทั้งยังแววตาแล้วก็ใบหน้า ก็แค่ภาพเป็นคนดีของเขายังคงติดอยู่หน่อยๆTransformers: Rise of the BeastsTransformers: Rise of the Beasts ในเวอร์ชั่นเป็นการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1994 กับการเสี่ยงภัยรวมทั้งต่อสู้ครั้งสำคัญของเหล่าสมาชิกจักรกล ออโตบอตส์ ที่พวกเขาต้องหาแนวทางสำหรับการกลับดวงดาวของตน ซึ่งโน่นทำให้จำเป็นต้องมาประสานมือผนึกกำลังกับเหล่าจักรกลเผ่าใหม่ที่ชื่อว่า แม็กซิมอลส์ บนโลกมนุษย์ ท่ามกลางวิกฤติการณ์ที่ยังถูกพวกดิเซปตำหนิคอนส์มานะรุกราน หาวิธีกลืนรับประทานดวงต่างๆไปทั่วกาแลกเปลี่ยนซี
คงจะจำเป็นต้องยอมรับสารภาพตามจริงกับคุณคนอ่านทุกคนเลยว่า คาราเต้คิด เต็มเรื่อง สำหรับหนังชุด Transformers นั้น ทางพวกเราออกอาการเทไปแล้วก็เลิกมองไปครู่หนึ่งใหญ่ๆคงจะนับจากภาคที่ 2 เลยด้วย (ซึ่งคิดออกลางๆว่าทนมองได้ไม่จบ) ถึงแม้จากนั้นมันจะยังคงถูกผลิตออกมาเป็นภาคที่ 3-4-5 เป็นลำดับ แม้กระนั้นก็มิได้ติดตามหรือพอใจเฟรนไชส์หนังประเด็นนี้ต่อ จะมีก็แค่กลับมามอง “Bumblebee” เมื่อไม่กี่ปีกลาย เนื่องจากว่ามีความเห็นว่าเป็นภาคต้นและก็มีความเป็นภาคแยก
แล้วก็เมื่อได้ได้โอกาสกลับมาเปิดใจมองต่อในภาคนี้ น่าจะจำต้องใช้ว่า…เซอร์ไพรส์อยู่แบบเดียวกัน เนื่องจากว่า Transformers: Rise of the Beasts แปลงเป็นฉบับปรับปรุงแก้ไขใหม่ที่จัดว่าหลายๆอย่างลงร่องลงรอยเพิ่มขึ้น เทียบได้กับเสน่ห์ที่เคยสัมผัสได้ตั้งแต่หนังภาคแรกที่สร้างประสบการณ์ดูหนังที่ตื่นตาตื่นใจได้เรื่องหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ จัดว่าส่วนประกอบบางอย่างของหนังชุดนี้ได้ถูกจัดระบบขึ้นให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น